ปรึกษาคดีและจ้างทนายความ โทร 0991841301
อายุความบัตรกดเงินสด
เล่าสู่กันฟัง
10/13/20241 min read
อายุความบัตรกดเงินสด
ยุคนี้สมัยนี้ผู้เขียนว่าใครที่ไม่รู้จักบัตรกดเงินสดก็ถือว่าเชยกันเลยทีเดียวนะ แต่คนที่โชคดีที่สุดไม่ใช่คนที่มีบัตรกดเงินสด แต่เป็นคนที่มีบัตรกดเงินสดแล้วชำระหนี้ได้ตามกำหนดต่างหาก หรือ ถ้าคนที่โชคดีกว่านั้นก็คือ การไม่มีหนี้คือลาภอันประเสริฐ
แต่สำหรับคนที่เป็นหนี้แล้ว ชำระหนี้ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะตกงาน หรือ รายได้ไม่พอกับรายจ่ายทำให้ต้องไปเป็นหนี้บัตรกดเงินสดจากบริษัทหรือธนาคารต่างๆก็ต้องสู้และผ่อนชำระหนี้ต่อไป ไม่รู้เมื่อไหร่จะเป็นไทยแก่ตัวเองเสียที
เป็นหนี้ก็ต้องใช้ เป็นคำสอนของผู้หลักผู้ใหญ่ที่ปลูกฝังเรามาตลอด แล้วถ้าเป็นหนี้แล้วใช้หนี้ไม่ได้ล่ะ จะทำอย่างไร แล้วมีวิธีไหนที่จะไม่ต้องใช้หนี้บ้าง มีกฎหมายเปิดช่องไว้ให้คนเป็นนี้ที่จะไม่ต้องใช้หนี้หรือเปล่า คำตอบคือ “มี” คือ หนี้ขาดอายุความนั่นเอง ถ้าหนี้ขาดอายุความ ลูกหนี้สามารถยกเป็นข้อต่อสู้เพื่อไม่ต้องชำระหนี้ได้
อายุความในหนี้แต่ละประเภทมีระยะเวลาไม่เท่ากัน ซึ่งสำหรับวันนี้ จะยกตัวอย่างเฉพาะหนี้บัตรกดเงินสดและหนี้อื่นๆในลักษณะเดียวกันกับบัตรกดเงินสด ว่ามีอายุความเพียง 5 ปี นับแต่วันที่เจ้าหนี้อาจใช้สิทธิเรียกร้องให้เราชำระหนี้
โดยทั่วไปแล้วหนี้บัตรกดเงินสดที่เราไปขอสินเชื่อจากบริษัทปล่อยสินเชื่อต่างๆหรือจากธนาคารต่างๆจะมีข้อกำหนดให้เราต้องผ่อนชำระเป็นงวดๆ และ ชำระทุกเดือน ซึ่งในแต่ละงวดนั้นจะมีการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33 (2) บัญญัติว่า “สิทธิเรียกร้องดังต่อไปนี้ให้มีกำหนดอายุความห้าปี
1. ………………..
2. เงินที่ต้องชำระเผื่อผ่อนทุนคืนเป็นงวดๆ
3. ………………..
4. ……………….
5. ……………….”
เมื่อหนี้บัตรกดเงินสด มีข้อกำหนดให้ผ่อนชำระหนี้เป็นรายเดือน ส่วนมากจะมีข้อกำหนดให้ชำระเป็นรายเดือนทุกๆเดือน และการผ่อนแต่ละงวดก็จะมีเงินต้นรวมอยู่ด้วย จึงมีลักษณะเป็นการผ่อนทุนคืนเป็นงวดๆ จึงมีอายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33 (2)
ไม่ใช่เฉพาะบัตรกดเงินสด ที่มีอายุความ 5 ปี หนี้เงินกู้ต่างๆหากมีข้อตกลงผ่อนชำระเงินต้นเป็นงวดๆ ก็มีอายุความ 5 ปี เช่นเดียวกัน ผลของหนี้ที่ขาดอายุความ ก็คือลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิเสธไม่ชำระหนี้ได้ หากเจ้าหนี้นำคดีไปฟ้องศาล ลูกหนี้ในฐานะจำเลยก็มีสิทธิยื่นคำให้การสู้คดีว่าหนี้ขาดอายุความ เพื่อจะไม่ต้องชำระหนี้ได้
อายุความ 5 ปีที่ว่านี้ คือ 5 ปี นับแต่วันที่เจ้าหนี้อาจใช้สิทธิเรียกร้องให้ท่านชำระหนี้ได้ เช่น หากมีข้อตกลงผ่อนชำระเป็นรายเดือนทุกๆเดือนและตกลงชำระหนี้ทุกวันสิ้นเดือนของทุกเดือน และ สมมุติว่าท่านชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ครั้งสุดท้ายในงวดวันสิ้นเดือนมกราคม 2564 แสดงว่าท่านต้องชำระหนี้ครั้งต่อไปคือวันสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 หากปรากฏว่างวดเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ท่านผิดนัดไม่ชำระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องเรียกให้ท่านชำระหนี้ได้นับแต่งวดเดือนกุมภาพันธ์ 2564 คือ นับแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป ดังนั้นอายุความ 5 ปี จึงเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 นับไปอีก 5 ปี อย่างนี้เป็นต้น
ทั้งนี้อ้างอิงแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 12442/2553 แม้มีข้อตกลงกำหนดเงื่อนไขในการชำระเงินกู้คืนทุกเดือนตามคำสั่งหรือกำหนดชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทุกสิ้นเดือน เดือนละ 148,000 บาท ระยะเวลา 5 ปี เริ่มชำระงวดแรกวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2539 และงวดต่อๆ ไปทุกวันที่ 23 ของเดือน จนกว่าเงินต้นและดอกเบี้ยจะได้มีการชำระครบถ้วนแล้วอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เมื่อผู้ให้กู้เดิมและจำเลยที่ 1 เลือกผูกพันตามข้อตกลงในการชำระหนี้เงินกู้พร้อมดอกเบี้ยคืนโดยวิธีชำระคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยทุกเดือนรวมระยะเวลา 5 ปี นิติสัมพันธ์ระหว่างผู้ให้กู้เดิมหรือโจทก์ผู้รับโอนสิทธิเรียกร้องกับจำเลยที่ 1 จึงต้องบังคับตามข้อตกลงที่คู่สัญญาเลือกปฏิบัติผูกนิติสัมพันธ์กันนั้น เมื่อข้อตกลงชำระหนี้เงินกู้คืนที่ตกลงผูกนิติสัมพันธ์กันนั้นเป็นการชำระหนี้เพื่อผ่อนทุนคืนเป็นงวดๆ สิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้เงินกู้ดังกล่าวจึงมีอายุความ 5 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/33 (2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2551 วินิจฉัยในทำนองเดียวกัน
ซึ่งคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 10262/2550 วินิจฉัยว่าบัตรกดเงินสดเรดดี้เครดิตมีอายุความ 2 ปี
แม้สัญญาให้บริการสินเชื่อเรดดี้เครดิตโจทก็กับจำเลยมีข้อตกลงกันว่าจำเลยต้องเปิดบัญชีกระแสรายวันไว้กับโจทก์เพื่อให้จำเลยใช้บัญชีดังกล่าวเบิกถอนเงินโดยการใช้เช็คที่โจทก์มอบให้จำเลยไว้และมีข้อตกลงให้โจทก์หักทอนเงินในบัญชีเพื่อการชำระหนี้ใดๆ ที่จำเลยมีต่อโจทก์ตามสัญญาก็ตาม แต่เมื่อตามสัญญาใช้เงินสินเชื่อข้อ 11 ระบุไว้ว่า หากผู้กู้นำเงินสดและ/หรือเช็คเข้าฝากในบัญชีกระแสรายวันที่ผู้กู้เปิดไว้โดยผู้กู้ไม่มีหน้าที่ต้องชำระหนี้ใดๆ แก่ธนาคาร ผู้กู้ยอมให้ธนาคารโอนเงินจำนวนดังกล่าวหรือที่เรียกเก็บได้ตามเช็คเข้าฝากในบัญชีเงินฝากประเภทไม่มีดอกเบี้ยที่ธนาคารจัดให้มีขึ้นทันที ทั้งนี้ ผู้กู้ตกลงและรับทราบว่าในเวลาใดๆ เวลาหนึ่ง ยอดเงินฝากคงเหลือในบัญชีกระแสรายวันจะมีจำนวนเท่ากับศูนย์ ซึ่งตามข้อตกลงดังกล่าวแสดงว่าจำเลยไม่มีโอกาสเป็นเจ้าหนี้โจทก์ตามบัญชีกระแสรายวันอันจะเป็นเหตุให้ต้องหักทอนบัญชีกัน ทั้งตามพฤติการณ์แห่งคดีก็ปรากฏว่าจำเลยใช้เช็คที่โจทก์มอบให้เบิกถอนเงินจากบัญชีกระแสรายวันของจำเลยเพียงช่วงแรกเท่านั้น หลังจากนั้นจำเลยเบิกถอนเงินโดยผ่านเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติเพียงอย่างเดียว ในการคิดดอกเบี้ยเนื่องจำเลยผิดนัดไม่ชำระหนี้ตามกำหนดก็ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้คิดดอกเบี้ยแบบทบต้นแต่อย่างใด บัญชีกระแสรายวันที่จำเลยเปิดไว้จึงเป็นเพียงบัญชีกระแสรายวันที่ใช้เพื่อให้จำเลยชำระหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรเรดดี้เครดิตของจำเลยฝ่ายเดียวโดยเฉพาะ ไม่ใช่กรณีที่โจทก์จำเลยเปิดบัญชีกระแสรายวันดังกล่าวขึ้นโดยมีเจตนาตกลงกันโดยตรงให้หักทอนบัญชีหนี้อันเกิดขึ้นแก่กิจการในระหว่างโจทก์กับจำเลย และคงชำระหนี้แต่ส่วนที่เป็นจำนวนคงเหลือ อันเป็นลักษณะของสัญญาบัญชีเดินสะพัดตาม ป.พ.พ. มาตรา 856
การที่โจทก์ออกบัตรซิตี้การ์ดพร้อมเลขรหัสประจำตัวให้แก่จำเลยเพื่อให้จำเลยใช้เบิกถอนเงินสดจากพนักงานของโจทก์หรือจากเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติโดยไม่มีข้อจำกัดว่าต้องเบิกถอนเงินจากเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติของโจทก์เท่านั้น ซึ่งหากจำเลยเบิกถอนเงินจากเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติของสถาบันการเงินอื่นๆ โจทก์ก็ต้องออกเงินทดรองจ่ายแทนจำเลยไปก่อน อันเป็นการรับทำการงานแทนนั่นเอง ส่วนการมอบเช็คให้จำเลยไว้ใช้ในการเบิกถอนเงินจากบัญชีกระแสรายวันของจำเลย หรือการออกรหัสประจำตัวแก่จำเลยเพื่อให้จำเลยสามารถใช้บริการสินเชื่อเรดดี้เครดิตผ่านทางซิตี้โฟนแบงก์กิ้งได้นั้น ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการให้บริการอำนวยความสะดวกดังกล่าว กรณีถือว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบธุรกิจรับทำการงานต่างๆ ให้จำเลยรีบเรียกเอาเงินที่ได้ออกทดรองไป สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงมีอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (7) เมื่อปรากฏว่าจำเลยไม่ชำระหนี้ให้แก่โจทก์ภายในวันที่ 20 มีนาคม 2546 ตามที่กำหนดไว้ในใบแจ้งยอดบัญชี โจทก์จึงมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2546 การที่โจทก์มาฟ้องคดีนี้วันที่ 25 เมษายน 2548 ซึ่งพ้นกำหนด 2 ปี แล้วสิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงขาดอายุความ
อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3441/2565 ที่วินิจฉัยกรณีบัตรกดเงินสดอายุความ 10 ปี
จำเลยให้การว่า จำเลยใช้บริการสินเชื่อประเภทบัตรกดเงินสดจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจรับทำการงานต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างจากจำเลย รวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไปเป็นกรณีที่จำเลยให้การว่าหนี้ตามสัญญาสินเชื่อบุคคลกรุงศรี สไมล์ แคช ไลน์ ขาดอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (7) คดีจึงมีประเด็นเพียงว่า หนี้ตามสัญญาสินเชื่อบุคคลกรุงศรี สไมล์ แคช ไลน์ ขาดอายุความ 2 ปี ตามมาตรา 193/34 (7) หรือไม่ เท่านั้น แม้จำเลยจะอ้างตนเองเป็นพยานเบิกความในทำนองว่า หนี้ส่วนนี้ขาดอายุความ 5 ปี ก็ไม่ทำให้เกิดประเด็นขึ้นเพราะเป็นเรื่องนอกคำให้การ ที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยว่า หนี้ตามสัญญาสินเชื่อบุคคลกรุงศรี สไมล์ แคช ไลน์ ขาดอายุความ 5 ปี ตามมาตรา 193/33 (2) จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้โจทก์ไม่ฎีกาในเรื่องนี้ ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 142 (5) ประกอบ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 7 ส่วนที่จำเลยให้การในตอนท้ายต่อมาว่า นับแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2561 โจทก์รับโอนสิทธิเรียกร้องแต่ไม่ได้ใช้สิทธิเรียกร้องบังคับให้จำเลยชำระเงินภายในกำหนดดังกล่าว สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงขาดอายุความนั้น คำให้การในส่วนนี้ไม่ได้แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความให้ชัดแจ้งว่าขาดอายุความเรื่องใด ไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 177 วรรคสอง จึงไม่มีประเด็นเรื่องอายุความ 5 ปี ได้ความว่า สินเชื่อบุคคลกรุงศรี สไมล์ แคช ไลน์ เป็นกรณีที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) อนุมัติสินเชื่อเป็นวงเงินกู้ประเภทหมุนเวียนแบบมีกำหนดการชำระคืนขั้นต่ำและหรือแบบมีการกำหนดชำระคืนแน่นอน ซึ่งการเบิกรับเงินกู้สามารถเบิกถอนเงินจากเครื่องฝากถอนเงินอัตโนมัติโดยใช้บัตรกดเงินสดที่ธนาคารออกให้หรือให้ธนาคารนำเงินเข้าบัญชีเงินฝากหรือวิธีการอื่น ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยจากเงินกู้นับแต่วันที่ขอเบิกถอนเงินแต่ละครั้ง รูปคดีจึงเป็นสัญญาบริการสินเชื่อหาใช่เป็นเรื่องผู้ประกอบธุรกิจรับทำงานต่าง ๆ เรียกเอาสินจ้างรวมทั้งเงินที่ได้ออกทดรองไปก่อนแล้วมาเรียกเก็บจากจำเลยภายหลัง สิทธิเรียกร้องเช่นนี้กฎหมายมิได้บัญญัติอายุความไว้โดยเฉพาะจึงมีกำหนด 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 มิใช่ 2 ปี ตามมาตรา 193/34 (7) ฟ้องโจทก์สำหรับหนี้สินเชื่อบุคคลกรุงศรี สไมล์ แคช ไลน์ จึงไม่ขาดอายุความ
หาทนาย ยื่นคำให้การต่อสู้คดี ปรึกษากฎหมาย ติดต่อทนายวิ 0991841301
© 2019. All rights reserved.
บรีษัท วิสด้อม อาร์ แอนด์ ดี จำกัด
99 Rattanatibet rd. Nonthaburi
tel/line: 099 184 1301
tel: +66991841301
line official: @210ndsrz
website: lawyerdirects.com
email: lawyerdirects@gmail.com
Monday to Friday
9:00 am to 6:00 pm
Saturday
9:00 am to 12 noon
Closed on Sundays
เร่งด่วน!! โทร/ไลน์ หาทนายได้ทุกวัน ตลอด 24 ชม.